” อาดัง ไอแลนด์ รีสอร์ท ” รีสอร์ทส่วนตัวบนเกาะอาดัง โดยคุณหมอ

สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆน้องที่กำลังอ่านกระทู้นี้ นี้เป็นกระทู้แรกของ Pantip ที่ได้เขียนและได้แชร์ประสบการณ์การเข้าพักที่ เกาะอาดัง กับรีสอร์ทส่วนตัวชื่อ อาดัง ไอแลนด์ รีสอร์ท เป็นเกาะที่อยู่ในความดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอาดัง โดยตัวเกาะอยู่ตรงข้ามกับเกาะหลีเป๊ะ  โดยใช้เวลาเดินทางจากเกาะหลีเป๊ะมายังเกาะอาดังเพียงแค่ 10 นาทีโดยเรือหางยาวเท่านั้น ตัวเกาะและรีสอร์ทส่วนตัวมากๆ เลยอยากจะมาแนะนำให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ทุกคนที่กำลังมีแพลนจะเที่ยวเกาะหลีเป๊ะและต้องการความเป็นส่วนตัวเงียบสงบ รีสอร์ทแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งแห่งที่ผมแนะนำ มาเริ่มทริปกันเลยดีกว่าครับ 

เกาะอาดัง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาทีโดยเรือหางยาว

การเดินทางมายัง อาดัง ไอแลนด์ รีสอร์ท จะเดินทางเหมือนกับเดินทางมาเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ โดยต้องนั่งเรือ Speedboat จากท่าเรือปากบารามายังเกาะหลีเป๊ะ ก่อนที่เรือหางยาวของรีสอร์ทจะมารับจากเกาะหลีเป๊ะไปที่เกาะอาดังโดยเรือ speedboat จะส่งเราที่หาดที่ชื่อว่า Pattaya Beach หลังจากนั้นเราต้องนั่งรถ Taxi มาลงหาด Sunset Beach ซึ่งเป็นหาดที่รับส่งของรีสอร์ท เมื่อถึงที่หาด Sunset Beach แล้วจะมีคนเรือหางยาวของรีสอร์ทถือป้ายรอเราอยู่พร้อมช่วยเรายกประเป๋าทั้งหมด ทุกคนเป็นกันเองมากกกกก

หลังจากนั้นเราจะใช้เวลาในการนั่งเรือหางจากหาด Sunset Beach มายังเกาะอาดัง ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 10 นาทีเอง ขอบอกก่อนว่าน้ำที่นี้ใสมากกกกกก (ก ไก่ หนึ่งแสนตัว)

ตัวรีสอร์ทจะตั้งอยู่ตรงข้ามกับ Sunset Beach โดยที่เมื่อเรายืนอยู่ที่ Sunset Beach สามารถเห็นรีสอร์ทได้อย่างชัดเจน เมื่อถึงที่พักแล้วสิ่งหนึ่งที่เราจะได้สัมผัสคือ ความเป็นส่วนตัวมากๆ เนื่องจากเป็นรีสอร์ทเดียวที่อยู่บนเกาะอาดัง  เราลองถามพี่ๆ พนักงานที่ทำงานที่นี้ว่าทำไมถึงมีรีสอร์ทอยู่บนเกาะอุทยาน พี่ๆที่รีสอร์ทบอกว่า รีสอร์ทนี้ได้ทำสัญญาเช่ากับกรมธนารักษ์ โดยมีอายุการเช่า 25 ปี หลังจากอายุการเช่าหมดรีสอร์ทจะถูกคืนให้กับกรมธนารักษ์เพื่อดูแลต่อไป ธรรมชาติรอบๆ รีสอร์ทห้อมล้อมด้วยป่าไม้ ดังนั้นไม่ต้องกังวลเลยว่าอากาศจะดีขนาดไหน เรียกได้ว่า ได้สูดดม Oxygen ที่สดชื่นสุดๆ 

เมื่อถึงรีสอร์ทได้ไม่เท่าไหร่พวกเราก็รู้สึกหิวกันมากๆ เพราะว่ายังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่ตอนเช้าเลย  เลยสั่งอะไรมากระแทกปากก่อนไปทำกิจกรรมอื่นๆ สั่งอาหารกับทางร้านอาหารของทางรีสอร์ท อาหารที่นี้ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารไทย โดยมีเมนูอาหารฝรั่งบ้าง แต่อาหารไทยที่นี้อยากบอกว่าอร่อยมากมากกก ถ้าเป็นคนใต้คงต้องพูดว่า ” หรอยแรงงงงงง ” เราจัดหนักจัดเต็ม สั่งหมึกย่าง , ไข่เจียว , ไก่ทอดเกลือ , กุ้งอบวุ้นเส้น และต้มยำทะเล อยากบอกว่ากินเพลินจนลืมถ่ายบรรยากาศอื่นๆ

ผมพักห้อง A – Classic Garden Bungalow ตัวห้องพักมี Basic ทุกอย่างพร้อมไม่ว่าจะเป็น Air , Hot-shower

ด้วยความที่เรารีบเข้าไป check-in ในห้องเพื่ออาบน้ามเลยลืม ถ่ายรูปห้องก่อนใช้ แต่ไม่เป็นไร หวังว่ารูปที่ถ่ายไปนี้จะยังใช้ได้  ตัวห้องมี แอร์ น้ำอุ่น เครื่องเป่าผม และทีวีให้บริการ มีกาแฟซอง และเครื่องชงน้ำร้อนให้ด้วยเผื่อใครอยากกินกาแฟขึ้นมาตอนกลางคืน การตกแต่งในห้องจะเน้นอิฐเผาซึ่งให้ความรู้สึกเข้ากับธรรมชาติมากๆ เออลืมบอกไปว่า ตัวห้อง A – Classic Garden Room จะอยู่ข้างในรีสอร์ทหน่อย แต่เดินไม่ไกลจากชายทะเล และสระว่ายน้ำเลย (ประมาณ 50 เมตร) เมื่อวางกระเป๋าและของต่างๆในห้องแล้ว เรากับเพื่อนๆ ก็ออกมาข้างนอกเพื่อสำรวจความสวยงามของทะเล ทางรีสอร์ทมีเรือคายัค และหน้ากากดำน้ำให้ลูกค้าได้เช่าบริการฟรี โดยสามารถเดินไปขอยืมได้ที่พี่ๆ Reception ได้เลย พี่ๆที่นี้น่ารักและเป็นกันเองมากๆ ลืมถ่ายรูปหน้าพี่เค้าๆ มาอวด 

เราใช้เวลา ตอนบ่ายพายเรือคายัคและถ่ายรูปเรื่อยเปื่อย หลังจากนั้นก็เข้าไปเดินป่านิดหน่อย พี่ๆพนักงานบอกว่ามีน้ำตกอยู่ใกล้ๆ ตัวรีสอร์ทใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที เราเลยแอบไปเดินเที่ยวป่ากัน เผื่อว่าจะเจออะไรน่าสนใจในป่า ทางเดินไปยังน้ำตกจะมีทางเดินที่ค่อนข้างไม่ยากมากนักสามารถเดินด้วยรองเท้าแตะได้ แต่พี่ๆเค้าจะแนะนำให้ใส่ผ้าใบเพราะบางทีฝนตกน้ำฝนอาจจะทำให้หินลื่น แต่ตอนที่เราไปอากาศดีมากเลยไม่มีอุปสรรคปัญหาอะไรมากนัก อยากบอกว่าเกาะอาดังมีสัตว์เยอะมากๆ เราเจอลิง นกเงือก และหมูป่า !!!!!! ด้วยความตกใจจึงลืมถ่ายรูปเพราะกลัวมัน แต่เอาจริงๆ มันแค่ได้ยินเสียงเราเดินมันก็วิ่งหายเข้าไปในป่าแล้ว ภายในป่าของเกาะอาดัง จะแตกต่างกับที่หาดโดยสิ้นเชิง เมื่อเข้ามาในป่า อากาศจะเย็นมากๆ สดชื่น และไม่ร้อนเหมือนที่หาด และที่สำคัญมีมุมให้ถ่ายรูปอีกด้วยนะ ด้วยเวลาที่เรามาเป็นหน้าร้อน ดังนั้นน้ำตกจะยังไม่มีน้ำเยอะมากนักเพราะว่าอากาศร้อน แต่ก็ยังมีมากพอให้เอาเท้าและตัวลงไปแช่คลายร้อน

เวลาผ่านไปเร็วมากจนมาดูเวลาอีกทีก็เกือบเย็นแล้ว เลยตัดสินใจกลับไปที่รีสอร์ทก่อนเพราะพี่ๆเค้าบอกว่าที่นี้เวลาเย็น พระอาทิตย์จะตกเร็วมาก และไม่ควรเดินป่าตอนกลางคืนเพราะเราอาจจะหลงป่าได้ พวกเราจึงกลับมารีสอร์ท อาบน้ำพักผ่อนรอเวลารับประทานอาหารเย็น  เย็นนี้เราสั่ง ส้มตำ ปลากระพงย่างเนย ปลาหมึกผัดไข่เค็ม ปลากระผัดพริกแกงใต้ และ คะน้าน้ำมันหอย ทุกเมนูอร่อยและถูกปากพวกเรามากๆ แต่ที่อยากให้ลองเลยคือ ปลากระพงผัดพริกแกงใต้  เด็ดดวง 10 กระโหลกกก พี่ๆเค้าบอกว่าใช้เครื่องแกงใต้ ซึ่งจะเผ็ดกว่าของภาคกลาง เราอยากจะสั่งพริกแกงกลับไปให้แม่ที่บ้านมาก 

เมื่อทานข้าวเสร็จแล้วก็ใช้เวลานั่งคุยกับเพื่อนๆ และกลับห้องไปพักผ่อนเพราะว่าพรุ้งนี้มี โปรแกรมไปดำน้ำ เจอกันพรุ้งนี้นะครับ ดำน้ำที่รัก

…… เวลา 1 คืนผ่านไปไวเหมือนเงินในกระเป๋า ……

ตื่นมากินอาหารเช้า อาหารเช้าที่นี้จะเป็นแบบ Set Menu โดยที่จะมีน้องพนักงานยื่นกระดาษเมนูอาหารเช้าให้เราเลือก 1 วันก่อน โดยพ่อครัวจะทำอาหารสดๆ ร้อนๆ มาให้เรา ณ เวลาที่เราไปทางรีสอร์ท มี American Breakfast, ข้าวต้มไก่ , ข้าวผัด และผัดซีอิ๋วให้เลือก ส่วนกาแฟและน้ำผลไม้ รวมถึงซีเรียล และแยม ทางรีสอร์ทมีให้เติมไม่อั้น เราสามารถตักได้ตามต้องการเลย

เมื่อก่อนอาหารเช้าเสร็จแล้วก็กลับไปพักที่ห้องเนื่องจาก เรือหางยาวที่เราได้จองทัวร์มาจะมารับเราประมาณ 10.00 น. ทำให้เรามีเวลาว่างหน่อยนึงเลยหาอะไรอ่านฆ่าเวลา ที่รีสอร์ทมีหนังสือให้ยืมอ่านเยอะมาก โดยส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือนวนิยายภาษาอังกฤษ ไม่ใช่ส่วนใหญ่สิ หนังสือทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษเนื่องจากลูกค้าที่นี้เป็นฝรั่งทั้งหมดเลย

เมื่อถึงเวลา 10.00 น. คนเรือก็มารับเราออกเดินไปดำน้ำ สิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรลืมเลยก็คือบัตรอุทธยานแห่งชาติเนื่องจากถ้าเราไม่พกบัตรไป พี่ๆทหารที่คุมสถานที่ท่องเที่ยวจะไม่ให้เราเข้าไปใช้บริการ เราและเพื่อนจองดำน้ำ Program B ซึ่งประกอบด้วย เกาะดง เกาะผึ้ง ร่องน้ำจาบัง เกาะหินงาม และเกาะราวี อยากบอกว่าปะการังสวยตามคำล่ำรือมากๆ โดยเฉพาะที่ ร่องน้ำจาบัง ปะการัง 7 สีคือสุดจัดปลัดบอก 

และแล้วความซวยก็มาเยือน เรามี memory card 2 ใบ โดยที่ใบนี้ใช้เก็บรูปภาพจนถึงภาพนี้แล้วมันก็เต็ม และเราก็เอาใบที่ 2 มาถ่ายต่อ แต่ระหว่างที่ไปเดินถนนคนเดินที่เกาะหลีเป๊ะ เราถอดสลับมัดแล้วลืมเก็บเลยหายไป เลยทำให้ไม่ได้เก็บภาพบรรยากาศ และจุดท่องเที่ยวอื่นๆ ด้วยเลย

เมื่อเราดำน้ำเสร็จแล้วก็กลับมาพักที่รีสอร์ทและไปเดินถนนคนเดินที่เกาะหลีเป๊ะตอนเย็น โดยใช้เรือบริการของรีสอร์ทซึ่งมีเรือฟรีให้บริการวันละ 3 รอบ โดยรอบสุดท้ายจะไปรับกลับจากเกาะหลีเป๊ะ 20.30 น. ที่เกาะหลีเป๊ะก็จะเป็นอีกบรรยากาศนึงเลย คนเยอะมากๆ ร้านอาหารก็เยอะมากๆ เช่นกัน เราไปกินอาหารทะเลกันในร้านอาหารที่ walking street อาหารอร่อย แต่คนเยอะมากกกกก เลยไม่ค่อยได้เดินเข้าไปในแต่ละร้านเท่าไหร่ เมื่อถึง 20.30 เราก็กลับมาที่จุดรับส่งของรีสอร์ทเพื่อนั่งเรือกลับที่พัก อาบน้ำแล้วก็พักผ่อนเตรียมตัวกลับ

วันกลับพี่ๆ พนักงานก็ให้ลาและขอบคุณเราที่มาใช้บริการและเอาเรือหางยาวไปส่งเราที่หาด Sunset พร้อมกับจองรถ Taxi เพื่อไปส่งเราที่จุดที่ต้องขึ้นเรือ speedboat กลับ อยากบอกว่าพี่ๆ น่ารักกันมากๆ เป็นกันเองกันมากๆเลย อยากจะแนะนำรีสอร์ทแห่งนี้ให้กับใครที่กำลังมองหาความเป็นส่วนตัวรับรอง ไม่มีผิดหวังแบบพวกเราแน่นอน สำหรับช่องทางติดต่อรีสอร์ทสามารถติดต่อได้ที่

www.adangresorts.com
Line OA : @adangislandresort

พวกเราชอบที่นี้มากและจะกลับมาพักอีกครั้งถ้าหากมีโอกาศกลับมาจังหวัดสตูลอีกครับ

Koh Adang, the paradisiacal neighboring island of Koh Lipe by Juntos Viajando

In this article we talk about Koh Adang, the little-known and paradisiacal neighbouring island of Koh Lipe, Thailand. Koh Adang is part of Tarutao National Marine Park in South-western Thailand, close to the Malaysian border and a 10-minute long tail ride from the famous island of Koh Lipe.

There’s only 1 resort located at Koh Adang, which is Adang Island Resort , which is located privately with their own private beach. Staying at Adang Island Resort The Adang Island Resort is a 3-star hotel located on the beachfront in the south of the island.
The hotel has an outdoor pool, restaurant and bar. You don’t need anything else to enjoy the island. We stay at A – Beachfront Villa, which is located right at the beach. The rooms have a TV, free WiFi and air conditioning. They also offer all their guests, Kayaks and snorkeling equipment for free.

Our A – Beachfront Villa at Adang Island Resort , Koh Adang.
Inside our room at Adang Island Resort , A – Beachfront Villa
Open-air outdoor pool at Adang Island Resort


A la carte breakfast is included in all reservations, it is very varied and delicious.The menu of the restaurant is very varied and all the dishes are delicious, they are somewhat more expensive than in Koh Lipe, but they are much larger and can be shared. The smoothies are delicious, we recommend the strawberry one, we loved it. Beers are cheap.


We stayed for 2 nights and it was a success, the facilities are just fantastic and the staff is great. If you travel to this area of ​​Thailand and you can spend a couple of days in this paradise, do not hesitate to stay at the Adang Island Resort.

There’re several activities you can enjoy DIY such as kayaking , jungle trekking and snorkelling. They are great to make you sweat !!. The Chado Cliff viewpoint, actually there are three viewpoints at different heights, the last one is in one of the highest points of Koh Adang and is the one that offers the best views.

The sunset here at Adang Island Resort is spectecular. But the best thing of all is to be able to enjoy them as a couple and without more people, it’s a super romantic island !!. Lastly, we really enjoy our stay at Adang Island Resort, and if you would like to experience like what we did, give them a try !! . Visit their website at www.adangresorts.com

Sunset at Adang Island Resort , Koh Adang. Thailand